สมัยนี้ผู้คนดูแลตัวเองกันมากขึ้น จะกินอะไรก็ต้อง “คลีน” ไว้ก่อน และวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เรากินคลีนอย่างที่ว่าได้นั้นก็คือการเลือกอาหารแบบมังสวิรัติมากินนั่นเอง (แถมช่วยให้คนรักสัตว์โลกสบายใจด้วย) หลายคนคงจะงงว่าแล้วที่ผ่านมาในเบียร์ดำไอริชเจ้าดังมีเนื้อสัตว์ด้วยหรือไงถึงได้ต้องประกาศก้องว่า “เป็นมังฯ แล้วนะพ่อแม่พี่น้อง”
คำตอบก็คือ จะว่าอย่างนั้นก็ได้!
เบียร์กินเนสนั้นมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานไม่ใช่เล่นถึงตั้ง 256 ปี และที่ผ่านมาสูตรลับในการทำเบียร์ของเขามีส่วนผสมที่ทำมาจากสัตว์ด้วย ซึ่งก็คือสิ่งที่เรียกว่า ไอซินกลัส (Isinglass) นั่นเอง เจ้าสารที่ว่านี้ก็คือแผ่นโปร่งแสงที่มีลักษณะคล้ายวุ้นหรือเจลาตินซึ่งได้มาจากผนังกระเพาะปลา ก็ถุงลมปลานั่นแหละ! เรื่องนี้ไม่ได้ล้อเล่น แต่มันเป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ล้วน ๆ จะว่าไปนอกจากรูปแบบแผ่นแล้ว เขามีรูปแบบผงพร้อมใช้ด้วย คล้ายกับเวลาที่เราทำขนมเลยล่ะ
ผู้ที่คลุกคลีในวงการอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะไวน์กับเบียร์มักทราบกันดีถึงคุณสมบัติของไอซินกลัสในการทำให้น้ำเบียร์ใสโดยการทำให้สารแขวนลอยต่าง ๆ จับตัวกันและตกตะกอนอย่างรวดเร็วมานานเป็นร้อยปีแล้ว และเบียร์ไอริชเจ้านี้ก็ใช้เจ้าสิ่งนี้กับเบียร์ของพวกเขามาหลายทศวรรษแล้วด้วย ก็แน่นอนล่ะว่าเมื่อมีผู้คนตั้งหน้าตั้งตารอคอยเบียร์ดำประจำใจอย่างกินเนสอยู่ทั่วโลกวันละตั้งหลายสิบล้านคน ยิ่งเร็วยิ่งดี!
ถึงตอนนี้บางคนคงรีบไปหาเบียร์กินเนสมาลองและดมหากลิ่นคาวปลากันยกใหญ่ เราบอกไว้เลยว่ามันไม่มีหรอกนะ เพราะเบียร์กินเนสเขากรองตะกอนทุกอย่างออกอีกรอบในตอนสุดท้าย ดังนั้นเบียร์จึงนุ่มคอเนียนกริบ
แต่เมื่อโลกเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ผู้คนหันไปใส่ใจสุขภาพกันมาก ชาวมังสวิรัติก็มีจำนวนมากขึ้นตามไปด้วยแถมยังแตกแขนงไปมากมายทั้งแบบเคร่งและไม่เคร่ง ที่เลิกดื่มกินเนสไปก็มากมาย ที่ออกมารณรงค์ให้เปลี่ยนเทคนิคการผลิตก็ไม่ใช่น้อย โรงเบียร์จึงพยายามหาทางปรับตัวมาสักพักใหญ่
เมื่อทุกอย่างพร้อม พวกเขาจึงออกมาแจ้งกับชาวโลกเรียบร้อยว่า ตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 2016 เบียร์กินเนสได้ตัดสินใจเลิกใช้ไอซินกลัสแล้วนะทุกคน โดยได้เปลี่ยนไปใช้ระบบกรองสุดทันสมัยแทน
ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็ยังคาดเดากันไม่ถูกว่าอะไรจะมาแทนเจ้าสารตัวนี้ได้ เพราะว่าที่ลองกันมาไม่ว่าจะเป็นการใช้กรดแทนนิน หรือใช้ระบบกรองที่ผสานทั้งแบบสารเคมีและกายภาพเข้าด้วยกัน หรือจะเป็นสารสกัดจากพืชบางอย่าง เช่น สาหร่ายแดงและมอสไอริช ต่างก็ให้ผลลัพธ์ที่ยังเทียบกับไอซินกลัสไม่ได้ ต่างคนต่างจึงต้องลุ้นรอกันต่อไปว่าแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่างกินเนสจะเปิดเผยนวัตกรรมอะไรเด็ด ๆ ในการทำให้เบียร์ใสอย่างรวดเร็วทันใจออกมา
รู้อย่างนี้แล้ว ชาววีแกนคนไหนอยากจะดื่มเบียร์ดำขาประจำเจ้านี้ให้สบายใจก็จัดไปให้เต็มที่ ส่วนใครที่เป็นมังสวิรัติแต่ดันติดอกติดใจกินเนสยาวมาตั้งแต่ก่อนปี 2016 แล้ว ก็คงไม่เป็นไรกระมัง ไม่รู้ไม่ว่ากัน! 😀